วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

หลักการของลูกเสือ

คณะลูกเสือแห่งชาติ ( The National Scout Organization of Thailand NSOT ) ได้จดทะเบียนเป็นสมาชิกขององค์การลูกเสือโลก เมื่อ พ.ศ. 2465 ดังนั้นในฐานะที่ เป็นสมาชิกขององค์การลูกเสือโลก จะต้องปฏิบัติตามหลักการ วัตถุประสงค์ และวิธีการของ ลูกเสือตามที่องค์การลูกเสือโลกได้กำหนดอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมลูกเสือในสถานศึกษาต้องยึดมั่นในวัตถุประสงค์ของ คณะลูกเสือแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติลูกเสือ (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2528 (มาตรา 7) และปฏิบัติ ตามข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ ว่าด้วยการปกครอง หลักสูตร และวิชาพิเศษลูกเสือ ดังนี้คณะลูกเสือแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาลูกเสือทั้งทางกาย สติปัญญา จิตใจและ ศีลธรรม ให้เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ ช่วยสร้างสรรค์สังคมให้มีความเจริญก้าวหน้า เพื่อความสงบสุขและความมั่นคงของประเทศชาติ ตามแนวทางดังต่อไปนี้
  •  ให้มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เชื่อพิงและพึ่งตนเอง
  •  ให้ชื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
  •  ให้รู้จักบำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์
  •  ให้รู้จักทำการ และฝึกฝนให้ทำกิจกรรมต่างๆตามความเหมาะสม
  •  ให้รู้จักรักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี            วัฒนธรรม              และความมั่นคงของ

ประเทศชาติทั้งนี้โดยไม่เกี่ยวข้องลับลัทธิการเมืองใดๆ
นอกจากนี้ ธรรมนูญของสมัชชาลูกเสือ (สำนักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ, 2521 5 หน้า 25-26 ) มีบทบัญญัติเกี่ยวลับหลัก สำคัญของลูกเสือไว้ 8 ประการ คือ
  •  หน้าที่ต่อพระผู้เป็นเจ้า/ศาสนา
  •  ความจงรักภักดีต่อประเทศชาติของตนเอง
  •  ความศรัทธาในมิตรภาพและความเป็นพี่น้องของลูกเสือทั่วโลก
  •  การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น
  •  การยอมรับและปฏิบัติตามคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ
  •  การเป็นสมาชิกด้วยความสมัครใจ
  •  ความเป็นอิสระต่ออิทธิพลทางการเมือง
  •  มีกำหนดการพิเศษสำหรับฝึกอบรมเด็กชายและคนหนุ่มเพื่อให้เป็นพลเมืองดี

รู้จักหน้าที่รับผิดชอบ โดยอาศัยวิธีการระบบหมู,  ระบบกลุ่ม              การทดสอบเป็นขั้นๆ และ
เครื่องหมายวิชาพิเศษ และกิจกรรมกลางแจ้ง

กล่าวโดยสรุป หลักการของลูกเสือมุ่งพัฒนาเด็กให้เป็นพลเมืองดี มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ และรู้จักบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ด้านสังคม โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

www.yonglihongscout.com

2 ความคิดเห็น: