จากแนวนโยบายดังกล่าวทางกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้มี
คำสั่งที่ วก 935/2532 เรื่อง ให้ใช้กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี ยุวกาชาด
และผู้บำเพ็ญประโยชน์เป็น กิจกรรมบังคับตามหลักสูตรชั้นประถมศึกษา พุทธศักราช 2521
และให้ใช้คาบเวลาเรียนของ กิจกรรมสร้างนิสัยในกลุ่มสร้างเสริมลักษณะนิสัยทั้งหมด
โดยมีคาบเวลาเรียนในแต่ละระดับชั้น ดังนี้
- ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-2 มีคาบเวลาเรียน 80คาบ
- ชั้นประถมศึกษาปีที่3-4 มีคาบเรียน 120คาบ
- ชั้นประถมศึกษาปีที่5-6 มีคาบเรียน 80คาบ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าให้ใช้กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี กิจกรรมยุวกาชาด
และกิจกรรมผู้ บำเพ็ญประโยชน์ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ตั้งแต่ปีการศึกษา
2523 ทุกชั้น ในส่วนของ หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนด้นก็เช่นเดียวกันได้มีคำสั่งที่วก
936/2532เรื่อง การเพิ่มเติมกิจกรรม และเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การใช้หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น
พุทธศักราช 2521 ให้ใช้กิจกรรม ลูกเสือ-เนตรนารี
กิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์เป็นกิจกรรมบังคับในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนด้น
พุทธศักราช2521 โดยให้ใช้เวลาจัดกิจกรรมดังกล่าว 1
คาบต่อสัปดาห์ต่อภาคตั้งแต่ปีการศึกษา 2533 เป็นด้นไป
สาระสำคัญของการลูกเสือและความสัมพันธ์ระหว่างลูกเสือแต่ละประเภท
สาระสำคัญของการลูกเสือ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ (2538, หน้า 4-5) ได้
กล่าวถึงการลูกเสือไว้ว่า ตั้งแต่กิจการลูกเสือกำเนิดขึ้น โดยลอร์ดเบเดน โพเอลล์
มีชื่อเต็มว่า โรเนิร์ต สดีเฟสัน สไมธ์ เบเดน โพเอลล์ หรือ บี.พี. ณ ประเทศอังกฤษ
เมื่อปี พ.ศ.2540 เป็นด้นมา กิจการลูกเสือได้เจริญก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ ก็เนื่องมาจาการที่
บี.พี. ได้เช้าใจในศักยภาพของเด็ก และเยาวชน
เมื่อนำเอาเด็กมากระตุ้นให้แสดงออกอย่างเหมาะสม จะสามารถทำให้เด็กมีคุณค่า
ต่อสังคมอย่างมหาศาล
ได้ทดลองนำเด็กไปอยู่ค่ายพักแรมจนประสบผลสำเร็จจะเห็นว่าถ้าหาก ผู้ใหญ่ให้ความสนใจ
ให้ความสำคัญลับการพัฒนาเยาวชนในทางที่ถูกที่ควรจะทำให้เยาวชนมี
คุณค่าต่อสังคมของโลกเป็นอย่างยิ่ง
www.yonglihongscout.com
www.yonglihongscout.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น